1. ประเทศศรีลังกา (Sri Lanka)
ศรีลังกา เป็นเกาะเล็ก ๆ ในมหาสมุทรอินเดียทางตอนเหนือ มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ มรดกโลกที่โดดเด่น ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และวิวทิวทัศน์สวยงาม
ครั้งหนึ่ง ประเทศนี้เคยได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุการณ์สึนามิถล่ม และบอบช้ำจากสงครามกลางเมืองเป็นเวลานานถึง 26 ปี ปัจจุบัน ปัญหาความขัดแย้งได้ยุติลง และมีการลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณนักท่องเที่ยวไปเยือนศรีลังกาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2. ประเทศเยอรมนี (Germany)
เยอรมนี ประเทศในฝันของนักเดินทาง ที่โดดเด่นด้วยปราสาทแห่งเทพนิยาย อย่าง ปราสาทนอยชวานชไตน์ ซึ่งตั้งอยู่บนหินผาขนาดใหญ่ยักษ์สูงกว่า 200 เมตร ในเทือกเขาแอลป์แถบแคว้นบาวาเรีย แล้วไม่ควรพลาดไปเดินเล่นเมืองโคโลญจน์ ชมความอลังการของ มหาวิหารโคโลญจน์ คริสตจักรโกธิคอันงดงาม ที่มีอายุเก่าแก่ถึง 700 ปี ก่อนไปเยือน มิวนิค เมืองหลวงแห่งเบียร์เยอรมัน เพื่อลิ้มลองเบียร์ท้องถิ่นและขาหมูเยอรมันรสชาติต้นตำรับ
3. ประเทศซิมบับเว (Zimbabwe)
ซิมบับเว เป็นประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในทวีปแอฟริกา เป็นที่นิยมของนักเดินทางผู้รักการผจญภัย ซึ่งเต็มไปด้วยอุทยานแห่งชาติมากถึงแปดแห่ง ทั้ง อุทยานแห่งชาติ Hwange,อุทยานแห่งชาติ Matobo, อุทยานแห่งชาติ Chimanimani, อุทยานแห่งชาติมานาพูลส์ และที่มีชื่อเสียงที่สุด ก็คือ อุทยานแห่งชาติน้ำตกวิกตอเรีย โดยน้ำตกวิกตอเรียตั้งอยู่คาบเกี่ยวระหว่างประเทศแซมเบีย กับ ซิมบับเว ทำให้เป็นน้ำตกที่มีหน้ากว้างที่สุดในโลก ในช่วงที่มีปริมาณน้ำมาก น้ำตกนี้จะแย่งกันทะลักพวยพุ่งลงไปยังเบื้องล่าง กระทบกับหินทำให้เกิดเสียงดัง และมีฟองฝอยฟุ้งเป็นละอองน้ำ เหมือนมีหมอกครื้มครอบคลุมไปทั่วบริเวณ
4. ประเทศปานามา (Panama)
ปานามา เป็นประเทศที่อยู่ทางใต้สุดของอเมริกากลาง ติดกับทะเลแคริบเบียนและมหาสมุทรแปซิฟิก โดยมีคลองปานามา เป็นเส้นทางเดินเรือเชื่อมระหว่างสองมหาสมุทร พื้นที่ส่วนใหญ่ปลูกกาแฟ เป็นภูเขา ชายหาด เกาะแก่งต่าง ๆ และป่าธรรมชาติ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น หมู่เกาะซันบลาส, หมู่เกาะเพิร์ล, ซานตาคาตาลินา, ปานามา ซิตี้, เอลวัลเดอแอนตัน เป็นต้น
5. ประเทศคีร์กีซสถาน (Kyrgyzstan)
คีร์กีซสถาน เป็นประเทศในเอเชียกลาง มีพรมแดนติดกับสาธารณรัฐประชาชนจีน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ล้อมรอบรอบไปด้วยภูเขาสูงและปกคลุมด้วยน้ำแข็งบนยอดเขาตลอดทั้งปี สถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ ของคีร์กีซสถาน เช่น ทะเลสาบอิสสิกกูล ทะเลสาบน้ำเค็มขนาดใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลก, หอคอยบูรานา โบราณสถาน ที่มีบันไดวนด้านในให้ขึ้นไปชั้นบนได้, ทะเลสาบซงกอล ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ, อุทยานแห่งชาติอลาอาร์ชา ที่ปีนเขายอดนิยม เล่นสกีได้ในฤดูหนาว, ภูเขาสุไลมาน ภูเขาศักดิ์สิทธิ์และเป็นพื้นที่มรดกโลก, ทาชราบัต ที่พักข้างทางสร้างจากหิน คล้ายกระโจม ซึ่งเปิดมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 ควรลองหาโอกาสไปนอนพักสักครั้งหนึ่ง
6. ประเทศจอร์แดน (Jordan)
จอร์แดน ประเทศในแถบตะวันออกกลาง ที่เต็มไปด้วยอารยธรรมโบราณกลางทะเลทราย มีแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นอย่าง เพตรา มหานครศิลาทรายสีชมพู เมืองที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขาที่สูงชัน ซึ่งถูกสลักเนื้อหินเข้าไปเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยมานานถึงสองพันปี
เราสามารถเดินชมสถาปัตยกรรมอันมหัศจรรย์ของชาวนาเบเธียน เช่น อาคาร สุสาน โรงอาบน้ำ วิหาร และอัฒจันทร์ขนาดยักษ์ ไฮไลต์ของเมืองนี้อยู่ที่อนุสาวรีย์ยิ่งใหญ่ The Treasure ที่ตั้งอยู่สุดทางเดิน อนุสาวรีย์นี้มีด้านหน้าเป็นอาคารมโหฬารสูงตระหง่าน 200 เมตร และเคยใช้เป็นฉากในภาพยนตร์เรื่อง “อินเดียน่า โจนส์” ภาค 3 ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า
7. ประเทศอินโดนีเซีย (Indonesia)
อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีหมู่เกาะมากกว่า 17,000 เกาะ ตั้งอยู่บนแนววงแหวนแห่งไฟ ในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเมื่อแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนมาชนกัน จึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวแล้วตามมาด้วยสึนามิอยู่บ่อยครั้ง โดยหมู่เกาะที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ เกาะบาหลีเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีธรรมชาติสวยงาม ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใคร นอกจากบาหลีแล้ว ผู้คนยังนิยมไปปีนภูเขาไฟ ทั้งภูเขาไฟลอมบอก ภูเขาไฟรินจานี และ ภูเขาไฟคาวาอีเจียน
8. ประเทศเบลารุส (Belarus)
ประเทศเบลารุส อีกหนึ่งประเทศน่าเที่ยวในยุโรป ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางตะวันออกของประเทศโปแลนด์ โดยมี “กรุงมินสก์” (Minsk) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศเบลารุส
สำหรับการท่องเที่ยวในกรุงมินสก์นั้น อยากแนะนำให้ไปชมความยิ่งใหญ่ของ “จัตุรัสแห่งชัยชนะ” (Victory Square) อีกหนึ่งอนุสาวรีย์หลัก หรือที่รู้จักกันในนามของ “อนุสาวรีย์แห่งความรักชาติ” ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ระลึกถึงเกียรติของชัยชนะแห่งสงครามในช่วงปี 1941-1945
ต่อมาเดินทางไปเยือน “มหาวิหารแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์” ( Holy Spirit Cathedral) เป็นคริสตจักรเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมบาร็อค เริ่มแรกถูกใช้เป็นที่อยู่ของแม่ชีคาทอลิก และในปี 1870 ได้กลายมาเป็นมหาวิหารแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งยังคงรูปแบบเดิมของอาคารเอาไว้จนถึงปัจจุบัน
9. ประเทศเซาตูเมและปรินซีปี (São Tomé & Príncipe)
เป็นประเทศหมู่เกาะเล็ก ๆ ในอ่าวกินี ประกอบด้วยเกาะสำคัญ 2 เกาะ คือ เกาะเซาตูเมและเกาะปรินซีปี ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 140 กิโลเมตร โดยเกาะทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของแนวภูเขาไฟที่ดับแล้ว
São Tomé & Príncipe มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ยอดเขาภูเขาไฟ Pico Cao Grande หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า ยอดภูเขาไฟสุนัข สูงตระหง่านใจกลางป่าที่เขียวชอุ่มในวนอุทยานแห่งชาติโอโบ
10. ประเทศเบลีซ (Belize)
เบลีซ เป็นชาติขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของอเมริกากลาง ริมทะเลแคริบเบียน มีภูมิประเทศที่เหมาะออกไปผจญภัยทั้งเดินป่าสำรวจธรรมชาติ และดำน้ำใต้ทะเลลึก
สัมผัสประสบการณ์ว่ายน้ำเคียงข้างปลาฉลามพยาบาลและปลากระเบนที่ เขตสงวนทางทะเลโฮลจัน ลองเล่นวินด์เซิร์ฟที่ เกาะเคย์ คอล์กเกอร์ กระโดดลงบ่อน้ำลึก 124 เมตรที่ บลูโฮล เฝ้ามองนกป่านานาพันธุ์ เช่น นกกระสาจาบีรูพันธุ์หายาก ใน เขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่าครุกเก็ดทรี รวมไปถึงเสือจากัวร์ใน เขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่าแอ่งน้ำค็อกส์คอมบ์
Comments