อันดับที่ 1 : ประเทศออสเตรีย
นี่หล่ะ อันดับ 1 ของประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ไม่ใช่แค่น่าอยู่อย่างเดียวแต่ยังเป็นประเทศน่าเที่ยวด้วยนะเออ มีทั้งธรรมชาติที่สวยงาม มรดกทางวัฒนธรรม งานศิลปะ และดนตรีคลาสสิก คู่ควรกับความเป็นเมืองบ้านเกิดของนักประพันธ์ดนตรีคลาสลิกชื่อดังทั้ง โมซาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) และ เบโทเฟน (Beethoven) ไม่แปลกใจเลยที่เมืองหลวงของประเทศอย่าง “กรุงเวียนนา” นั้นถูกจัดให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ติดอันดับโลกมาแทบจะตลอด แถมยังครองแชมป์เมืองคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลกยาวนานถึง 9 ปีซ้อน เพราะของเค้าจริงๆ ค่ะ
ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจนั้น ก็เช่น พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace), พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace), มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephan’s Cathedral), พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ (Naturhistorisches Museum), พิพิธภัณฑ์ควาร์เทียร์ (MuseumsQuartier), โรงโอเปร่าแห่งกรุงเวียนนา (Vienna State Opera) และตลาดแนชมาร์ก (Naschmarkt)
บอกไว้ก่อนเลยว่าทั้งหมดที่ว่ามานี้แค่น้ำจิ้มค่ะ ของจริงยังมีอีกเพียบ ส่วนเรื่องอาหารการกินของที่นี่ เค้าจะมีความผสมผสานระหว่างเยอรมนีกับยุโรปกลาง มีอาหารเอกลักษณ์เด็ดๆ เลย ก็เช่น ซุป Gulasch ที่เป็นซุปเนื้อเครื่องเทศ, Schnitzel หมูชุบแป้งทอดกินกับซอสแครนเบอร์รี่รสหวานและ Topfen ชีสเหลวของที่นี่ค่ะ
อันดับที่ 2 : ประเทศออสเตรเลีย
สำหรับประเทศอันดับ 2 ชื่อคล้ายกันเลยกับออสเตรีย (แต่อยู่กันคนละซีกโลก!) แถมยังมีเมืองน่าอยู่ติดอันดับ Top 10 ถึง 3 เมืองด้วยกัน คือ เมลเบิร์น, ซิดนีย์ และแอดิเลด ย้ำชัดถึงความเป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอย่างชัดเจน ในส่วนของความน่าเที่ยวนี่ไม่ต้องสาธยายกันยาวค่ะ เพราะที่นี่ถือเป็นหมุดหมายการท่องเที่ยวยอดฮิตจากนักท่องเที่ยวทั่วทั้งโลก มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ มากมาย อาทิ โรงอุปรากรซิดนีย์, ถนนเกรท โอเชียน และเสาหินทั้ง 12, โขดหินอุลูรู, เกรตแบร์ริเออร์รีฟ แนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลก, หาดบอนได, จุดชมวิว Echo Point และ Three Sisters เป็นต้น
ส่วนวัฒนธรรมการกินของชาวออสซี่ในปัจจุบันนั้นได้รับอิทธิพลมาจากอาหารยุโรปค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เป็นเมืองติดทะเล และมีอากาศดี ชาวออสซี่จึงนิยมกินอาหารกลางแจ้งกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปิ้งย่างบาร์บีคิว รวมถึงอาหารทะเลนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น ปลาทูน่า, ปลาแซลมอน, ล็อบสเตอร์, กุ้ง และปู แล้วถ้าใครชอบลองของแปลกก็สามารถจัดเมนูเนื้อจิงโจ้ได้
อันดับที่ 3 : ประเทศญี่ปุ่น
นั่นไง! ประเทศขวัญใจไทยแลนด์ของเราก็ติดอันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกด้วยเหมือนกัน นั่นคือ โตเกียว กับโอซากา สมกับที่คนไทยหลายคนไปแล้วต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ชอบมาก อยากไปอีก หรือไม่ก็อยากไปอยู่เลย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเพราะติดใจบ้านเมือง ผู้คน ความเป็นระเบียบเรียบร้อย วัฒนธรรม หรือว่าอาหารการกิน แต่ทั้งหมดที่มารวมกันเป็น “ญี่ปุ่น” นี่แหละ คือเสน่ห์ที่ไม่สามารถหาจากที่ไหนได้จริงๆ และที่สำคัญตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับคนไทยอีกด้วย ง่ายต่อการไปท่องเที่ยวมากมาก
โดยเฉพาะเรื่องของกินนี่ ShopBack ชอบสุดๆ ค่ะ 555 ไปทีไรจัดหนักทุกที อะไรก็ได้สดใหม่จากธรรมชาติน่ะค่ะ อร่อยหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ ปลาสดๆ หรืออาหารทะเลอื่นๆ ถ้าไปช่วงที่อากาศหนาวก็ต้องจัดนาเบะ (หม้อไฟ) ที่สำคัญอย่าลืมไปซื้อขนมแปลกๆ ในซูเปอร์มาลองกินกันด้วย ประเทศอะไรขยันทำของแปลกๆ มาให้กินได้ตลอดจริงๆ
เดี๋ยวจะเอาแต่พากินจนลืมพาเที่ยว สำหรับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของญี่ปุ่นกมีมากมายค่ะ เช่น ภูเขาไฟฟูจิ, โตเกียว ทาวเวอร์, ปราสาทฮิเมะจิ, วัดเซ็นโซจิ (วัดอาซากุสะ), ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ แจแปน, โตเกียวดิสนีย์แลนด์, โตเกียวดิสนีย์ซี, ย่านชินจูกุ ฮาราจูกุ และโอไดบะ
อันดับที่ 4 : ประเทศแคนาดา
ข้ามซีกโลกมาเจอกับอีกหนึ่ง “ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก” อย่างแคนาดากันหน่อย ที่ตั้งของเมืองน่าอยู่ติดอันดับ Top 10 ถึง 3 เมือง คือ คาลการี, แวนคูเวอร์ และโทรอนโต แถมยังถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 7 ของอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ปี 2018 จากการสำรวจของ UN ที่เป็นการวัดจากหลายปัจจัย อาทิ อายุขัยเฉลี่ยของประชากร, GDP, อิสระในการใช้ชีวิต, ระดับความเสมอภาคเท่าเทียม รวมถึงอัตราการคอร์รัปชั่น
สำหรับแคนาดานั้นบอกเลยว่าใครที่ชื่นชอบการท่องไปในธรรมชาติอันงดงามและอุดมสมบูรณ์ ที่นี่คือสวรรค์ของคุณเลยค่ะ รับรองว่าเที่ยวเพลินแน่ๆกับทั้ง เทือกเขาร็อกกี้และทะเลสาปหลุยส์ ในเขตอุทยานแห่งชาติแบมฟ์, สวนสาธารณะสแตนลีย์ ปาร์ค, น้ำตกไนแอการา และสะพานแขวนคาปิลาโนค่า
ส่วนอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ ที่ต้องลองให้ได้ก็มีมากมายค่ะ เช่น Poutine เฟรนช์ฟรายด์ เบค่อน และชีส ราดด้วยน้ำเกรวี่, Canadian Breakfast อาหารเช้าสไตล์แคนาดา, ขนมนาไนโม่บาร์, พายเนื้อ และเมเปิ้ลไซรัป
อันดับที่ 5 : ประเทศเดนมาร์ก
แล้วก็มาถึงประเทศสุดท้ายกันแล้วค่ะ นั่นคือ ประเทศเดนมาร์ก กับเมืองหลวงโคเปนเฮเกน เมืองที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นเมืองที่มีความสุขในโลกประจำปีนี้ หลายคนคงไม่รู้สึกแปลกใจอะไรนัก เพราะนี่คือหนึ่งในประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวียที่ต้องบอกว่าคุณภาพชีวิตประชากรของเค้าดีมากๆ ผลัดกันเป็นแชมป์ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกกับอีก 2 ประเทศอย่าง นอร์เวย์ และฟินแลนด์ กันไป
โดยที่เที่ยวน่าสนใจในเดนมาร์กนั้นก็มีมากมายไม่แพ้ที่ไหนๆ นะคะ ทั้ง สวนสนุกทิโวลี่ สวนสนุกที่เก่าแก่มากที่สุดอันดับ 2 ของโลก!, ท่าเรือนูฮาวน์,พระราชวังโรเซนเบิร์ก, พระราชวังอามาเลียนบอร์ก, ปราสาทโครนบอร์ก, มหาวิหารรอสกิลด์ และพิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง
และถ้าได้มาถึงเดนมาร์กกันแล้ว อย่าลืมไปเรียนรู้วัฒนธรรมการกินของเค้าค่ะ ซึ่งของดีประจำบ้านเมืองนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมต่างๆ รวมถึงขนมอบรสชาติสุดยอด รวมถึงอาหารจำพวกเนื้อและปลา เช่น สเต็ก มีทบอล ปลาเพลซ ไปจนถึงปลารมควันต่างๆ
ที่มา : https://www.shopback.co.th/blog
Comments